วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

เตือนภัยมัลแวร์การเงินพุ่งสูง พบการโจมตีไซเบอร์สูงถึง 28 ล้านครั้งในปี 2013




            แคสเปอร์สกี้ แลป เผยข้อมูลจากการศึกษาวิจัยเรื่อง “Financial cyber threats in 2013” พบว่า อาชญากรไซเบอร์เพิ่มความพยายามในการแฮกเข้าบัญชีออนไลน์ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น จำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเงินนี้เพิ่มขึ้น เป็น 28.4 ล้านครั้ง คิดเป็น 27.6% จากปี 2012

          โปรแกรมที่ได้รับการออกแบบให้ขโมยข้อมูลทางการเงิน แบ่งเป็นแบ้งกิ้งโทรจัน คีย์ล็อกเกอร์ และมัลแวร์ใหม่ๆ อย่างมัลแวร์ที่ขโมยเงินในบิทคอยน์ (Bitcoin) และมัลแวร์ที่จัดการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพื่อสร้างเงินดิจิตอล (crypto-currency) บิทคอยน์กลายเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดของการโจมตีไซเบอร์ในปี 2013 อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการค้นพบช่องโหว่อันตรายจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มจาวา

          ในปี 2013 โซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถปกป้องผู้ใช้จำนวน 3.8 ล้านราย แบ้งกิ้งโทรจันชื่อกระฉ่อนอย่าง Zbot, Carberp และ SpyEye เป็นตัวการใหญ่ คิดเป็นสองในสามของการมัลแวร์การเงิน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2012 สัดส่วนมัลแวร์ประเภทนี้ถือว่าลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนเป้าหมายไปที่บิทคอยน์แทน สัดส่วนของคีย์ล็อกเกอร์ก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากอาชญากรไซเบอร์เปลี่ยนไปใช้โทรจันที่มีฟังก์ชั่นมากกว่า

             ผู้เชี่ยวชาญตรวจพบเหตุการณ์โจมตีทางการเงินกระจายไปทั่วโลก โดยเน้นที่ประเทศอัฟกานิสถาน โบลิเวีย แคเมอรูน มองโกเลีย เอธิโอเปีย เปรู ตุรกี และพม่า คิดเป็น 12% จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

               นอกจากนี้ ยังพบกิจกรรมมุ่งร้ายในโมบายดีไวซ์จำนวนมาก ในปี 2013 พบการระบาดของแอพพลิเคชั่นจำนวนมากที่มุ่งขโมยเงินจากบัญชีธนาคารออนไลน์ สูงถึง 20 เท่าเลยทีเดียว โดยเน้นการโจมตีที่สมาร์ทโฟนในระบบแอนดรอยด์

            “ในปีที่แล้ว เราตรวจพบภัยคุกคามทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มัลแวร์ แบ้งกิ้งโทรจันและโปรแกรมอื่นๆ ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อขโมยเงินของผู้ใช้ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบัน ผู้ใช้งานและสถาบันการเงินจึงต่างต้องระมัดระวัง และเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้ ขณะที่บริษัทซอฟต์แวร์เองก็เร่งพัฒนาโซลูชั่นเพื่อให้ล้ำหน้าและกำจัดภัยร้ายเหล่านี้ได้ทันท่วงที” เซอร์เจย์ ลอซคิน นักวิจัยอาวุโสด้านความปลอดภัย บริษัท แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าว

             แคสเปอร์สกี้ แลป ได้พัฒนาเทคโนโลยีสำคัญ คือ Safe Money เพื่อป้องกันภัยการเงินโดยเฉพาะขณะทำธุรกรรมออนไลน์แบ้งกิ้งและออนไลน์ช้อปปิ้งต่างๆ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

             สำหรับองค์กรที่ให้บริการการเงินออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือธนาคาร แคสเปอร์สกี้ แลป ได้พัฒนาแพล็ตฟอร์ม Kaspersky Fraud Prevention ซึ่งประกอบด้วยความปลอดภัยหลายชั้นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำธุรกรรมของลูกค้า การทำงานของแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อปกป้องทั้งคอมพิวเตอร์และโมบายดีไวซ์ของลูกค้า

               ทั้งนี้ มัลแวร์ไม่ใช่ภัยร้ายเดียวที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ขโมยเงินของผู้ใช้ ยังมีภัยคุกคามอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นฟิชชิ่ง และการสร้างเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกดักข้อมูลการเงิน ในปี 2013 โซลูชั่นของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถสกัดกั้นการโจมตีของฟิชชิ่งได้ถึง 330 ล้านครั้ง และ 31.45% ของจำนวนนี้ เป็นฟิชชิ่งที่อ้างตัวว่าเป็นธนาคาร สถาบันการเงิน และร้านค้าออนไลน์ เพื่อหลอกล่อผู้ใช้ให้หลงกล

             การศึกษาวิจัยเรื่อง “Financial cyber threats in 2013” ของแคสเปอร์สกี้ แลป นี้ได้อ้างอิงข้อมูลที่บันทึกจาก Kaspersky Security Network ซึ่งเป็นฐานข้อมูลระบบคลาวด์ ออกแบบเพื่อประมวลผลข้อมูลภัย

อ้างอิง

projector ยี่ห้อไหนดี  projector ราคา  projector ยี่ห้อ ไหน ดี   projector มือสอง  projector ดูหนัง  projector มือ สอง  projector ดู หนัง  โปรเจคเตอร์จิ๋ว  โปรเจคเตอร์ มือสอง  โปรเจคเตอร์ จิ๋ว โปรเจคเตอร์ราคาถูก โปรเจคเตอร์มือสอง  โปรเจคเตอร์ ราคา ถูก  โปรเจคเตอร์ มือ สอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น